- ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว -จุดชมวิว สะพานข้ามอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลาง -ป้ายโอเคเบตง
- ตู้ไปรษณีย์สูง-ใหญ่ที่สุดในโลก -อุโมงค์มงคลฤทธิ์ – หอนาฬิกาเมืองเบตง
- สกายวอล์คชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง-วัดพุทธาธิวาส-วัดกวนอิม-ป้ายใต้สุดสยาม
- ร้านวุ้นดำ (เฉาก๊วยก.ม.4)–สวนหมื่นบุปผา-อุโมงค์ปิยะมิตร-บ่อน้ำพุร้อน-ศาลาประชาคม
- สะพานแขวนแตปูซู–วัดช้างให้-มัสยิดกลางสงขลา -ตลาดกิมหยง
ออกเดินทางสู่ จ.ปัตตานี ระหว่างทางแวะเสริมสิริมงคล ณ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เจ้าของตำนานสุดคลาสสิกของปัตตานี โดยมีเรื่องเล่าว่าลิ้มกอเหนี่ยวเดินทางมาตามพี่ชายกลับไปดูแลแม่ที่บ้านเกิด แต่พี่ชายไม่กลับไป ลิ้มกอเหนี่ยวจึงผูกคอตายใต้ต้นมะม่วงหิมะพานต์ โดยภายในศาลมีความเชื่อกันว่าเราสามารถยืมเงินเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวเป็นขวัญถุงได้ เมื่อค้าขายได้กำไรงอกเงยให้นำเงินมาคืนเป็น 2 เท่า ของที่ได้ยืมเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวไป
เดินทางสู่ อ.เบตง จังหวัดที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทย ระหว่างทางแวะถ่ายรูป ที่จุดชมวิว สะพานข้ามอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลาง เส้นทางสู่อำเภอเบตง ซึ่งสะพานนี้สร้างขึ้นเพื่อย่นระยะทางกว่า 15 กิโลเมตร เดิมถนนที่ใช้จะเป็นเส้นทางระหว่างภูเขาที่มีความคดเคี้ยว ทำให้การสัญจรเป็นด้วยความล่าช้าและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ทางราชการต้องดำเนินการสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 สายยะลา-เบตง ขึ้น โดยประหยัดเวลาการเดินทางได้ประมาณ 30 นาที
สมควรแก่เวลา เดินทางสู่ อำเภอเบตง แวะบันทึกภาพเป็นที่ระลึก ที่ ป้ายโอเคเบตง จุดเช็คอินแรกที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวก่อนเข้าสู่ “เมืองในหมอก ดอกไม้งาม ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน” ซึ่งตั้งอยู่ทางเข้าตัวเมืองเบตง เส้นทางสาย 410 ถนนสายหลักในการเข้า-ออกตัวเมืองเบตง
นำท่านถ่ายภาพกับ ตู้ไปรษณีย์สูง-ใหญ่ที่สุดในโลก ตู้ไปรษณีย์แห่งนี้ ตั้งอยู่ ณ มุมถนนสุขยางค์ บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาตั้งแต่ปี 2467 ในอดีตการติดต่อสื่อสารระหว่างอำเภอเบตงกับอำเภออื่น ๆ เป็นไปด้วยความยากลำบาก การติดต่อสื่อสารด้วยจดหมาย เป็นการติดต่อสื่อสารที่สะดวกที่สุด นายสงวน จิระจินดา นายกเทศมนตรีอำเภอเบตง ในขณะนั้นเคยเป็นนายไปรษณีย์มาก่อน จึงได้จัดสร้างตู้ไปรษณีย์นี้ไว้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์การติดต่อสื่อสารของอำเภอเบตง และยังได้ติดตั้งวิทยุกระจายเสียงไว้ในส่วนบนของตู้ เพื่อให้ประชาชนได้รับฟังข่าวสารจากทางราชการด้วยและปัจจุบันตู้ไปรษณีย์ใบนี้ ก็ยังใช้งานอยู่พร้อมบริการรับจดหมายเหมือนตู้ไปรษณีย์ทั่ว ๆ ไป
สมควรแก่เวลา นำท่านชมแสงสียามค่ำคืนของ อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ เป็นอุโมงค์ถนนที่ลอดผ่านภูเขา เชื่อมชุมชนเมืองกับปริมณฑลของเบตง มีระยะทางยาว 273 เมตร ที่แห่งนี้เป็นจุดสตาร์ทของเส้นทางวิ่งโครงการ “ก้าวคนละก้าว” ของทีมพี่ตูนบอดี้สแลม
หลังจากนั้น นำท่านชม หอนาฬิกาเมืองเบตง สิ่งก่อสร้างคู่บ้านคู่เมืองเบตง เสน่ห์ที่คู่หอนาฬิกาคือ นกนางแอ่นนับพันตัวที่เกาะสายไฟบริเวณหอนาฬิกา ซึ่งมีจำนวนมากช่วงเดือนกันยายนถึงมีนาคม นกนางแอ่นเหล่านี้บินหนีความหนาวเย็นมาจากไซบีเรีย และชาวเบตงมีเรื่องเล่าว่าหากท่านโดนมูลของนกนางแอ่นตกใส่ในบริเวณนี้ ไม่นานท่านจะต้องกลับมาเยือนเมืองเบตงอีกแน่นอน
สกายวอล์คอัยเยอร์เวง (Skywalk@Aiyerweng) ไฮไลท์สำหรับการชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ระเบียงทางเดินที่ยื่นออกจากฐานมีความยาวรวม 63 เมตร ส่วนปลายระเบียงเป็นพื้นกระจกใสมองทะลุไปได้ถึงพื้นเบื้องล่าง สามารถชมบรรยากาศดวงอาทิตย์ขึ้น ท่ามกลางสายหมอกอันงดงามราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์ ได้แบบรอบทิศทาง 360 องศา รวมค่ารถท้องถิ่นขึ้นจุดชมวิว และค่าถุงผ้าสวมรองเท้าเดินบนสกายวอล์ค (เปลี่ยนใช้รถบริการของชุมชนอัยเยอร์เวงขึ้นสกายวอล์ค รถสองแถวท้องถิ่น และต่อรถมอเตอร์ไซต์ท้องถิ่น)
วัดพุทธาธิวาส ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนเนินเขา สักการะพระธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ เป็นเจดีย์สีทองทรงศรีวิชัยประยุกต์ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ กราบพระพุทธธรรมกายมงคลฯ พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีวิหารหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดอีกด้วย
นำท่านสู่ วัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง หรือวัดกวนอิมตั้งอยู่บริเวณเนินเขาของสวนสุดสยาม วัดแห่งนี้เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพสำคัญๆหลายองค์ อาทิ เจ้าแม่กวนอิม ท่านแป๊ะกง ท่านกวงกง เจ้าแม่จิวหวังเหย่ ยี่หวังต้าตี้ หวาโถ่วเซียนซื่อ ขงจื้อ เป็นต้น มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและมาเลเซียเลื่อมใสศรัทธาเดินทางมาสักการะขอพรเป็นจำนวนมาก ส่วนมากจะขอพพรด้านการมีบุตรและโชคลาภ
เหยียบแผ่นดินใต้สุดสยามชายแดนไทย-มาเลเซีย ถ่ายรูปที่ป้าย “ใต้สุดสยาม” และรูปแผนที่ประเทศ ไทยสีทองสลักบนหินอ่อน
นำท่านถ่ายรูปด้านนอก สนามบินเบตงสนามบินแห่งใหม่ ลำดับที่ 29 ของกรมท่าอากาศยาน แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของอำเภอเบตง สถาปัตยกรรมของอาคารที่งดงาม เพราะอาคารบางส่วนถูกออกแบบด้วยไม้ไผ่ สะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่น เนื่องจากคำว่า “เบตง” หรือ “บือตง” เป็นภาษาถิ่นมลายู ซึ่งแปลว่า “ไม้ไผ่” ชม ร้านของฝากเมืองเบตง (ชิมชาเห็ดหลินจือธรรมชาติและซุปต้าลิหวังตุ๋นไก่) มอบประกาศนียบัตร “100โค้ง 1,000เลี้ยว” และชมร้านอินเตอร์รังนก การคัดรังนก เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง และทานรังนกตุ๋นโสม (ท่านจ่ายเอง) นำท่านสู่ ร้านวุ้นดำ กม.4 ต้นตำหรับอร่อยระดับตำนาน พิเศษ…เสิร์ฟเฉาก๊วยท่านละ 1 ถ้วย เฉาก๊วยใช้วิธีทำแบบดั้งเดิม ต้มเคี่ยวหญ้าเฉาก๊วยด้วยเตาฟืน ซึ่งจะทำให้มีกลิ่นหอมและมากไปด้วยสรรพคุณทางยา ให้ท่านได้อิสระซื้อเป็นของฝาก
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ อุโมงค์ปิยะมิตร อดีตฐานที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์มาลายาผู้เชี่ยวชาญในการรบรูปแบบจรยุทธ์ เป็นที่หลบเร้นการโจมตีทางอากาศ อุโมงค์มีความยาว 1 กิโลเมตร ใช้เวลาขุด 3 เดือน โดยแรงงาน 50 คนหมุนเวียนกันขุด ดั้งเดิมมีทางเข้าออก 9 ทาง กระจายตัวอยู่ทั่วภูเขา ภายในอุโมงค์มีศูนย์บัญชาการ ห้องพยาบาล ห้องส่งสัญญาณวิทยุ ห้องใต้ดินเก็บเสบียงและเอกสารสำคัญ ห้องพักผ่อน ภายนอกมีลานฝึกซ้อมกลยุทธ์และทำกิจกรรมต่างๆ ป้อมยาม ห้องครัวไร้ควัน ห้องฮันนิมูนวิวาห์ห้าดาว ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ ต้นไม้พันปีใกล้ ปากทางเข้าอุโมงค์
สวนหมื่นบุปผา โอบล้อมดอกไม้เมืองหนาวหนึ่งเดียวของภาคใต้อุณหภูมิ 13–32C ตลอดปี ชมดอกไม้นานาชนิดปลูกตามฤดูกาล
vเดินทางไป บ่อน้ำร้อนเบตง บ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย โดยอุณหภูมิของน้ำนั้นอยู่ที่ประมาณ 80 องศาเซลเซียส และบริเวณที่น้ำเดือดนี้สามารถต้มไข่ไก่ได้จนสุกภายใน 7 นาทีเท่านั้น ท่านสามารถนั่งขอบสระแช่เท้าจะรู้สึกผ่อนคลาย (นุ่งขาสั้น)
สมควรแก่เวลานำคณะเดินทางต่อไปยัง สะพานแขวนแตปูซู แวะถ่ายรูปกับสะพานไม้ สะพานแขวนแห่งนี้ใช้งานมาหลายสิบปี วัตถุประสงค์หลักที่สร้างขึ้นนั้น ในอดีตชาวบ้านใช้ขนถ่ายสินค้าทางการเกษตร เช่น ผลไม้ ยางพารา และใช้สัญจรของชาวสวนในพื้นที่ ตัวสะพานมีความกว้าง 1.8 เมตร ยาว 100 เมตร
นำท่านเดินทางสู่ มัสยิดกลางสงขลา หรือชื่อเต็มว่า มัสยิดกลางดิย์นุลอิสลาม ตั้งอยู่ที่ ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ศาสนสถานของพี่น้องชาวมุสลิม ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีของชาวสงขลา และนักท่องเที่ยว เพราะมีลักษณะสถาปัตยกรรมที่สวยสง่างดงาม โดยด้านหน้าจะมีสระน้ำทอดยาวราว 200 เมตร ทำให้มัสยิดนี้ดูคล้ายกับทัชมาฮาลที่อินเดียจนได้ขนานนามว่าเป็น ทัชมาฮาลเมืองไทย
จากนั้นช้อปปิ้ง ตลาดกิมหยง ศูนย์รวมสินค้าหลากหลาย เช่น ขนมขบเขี้ยว ผลไม้สด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ลูกหยี น้ำหอม เครื่องสำอาง ช้อคโกแลต เป็นต้น
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ สนามบินหาดใหญ่ ***ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงไฟล์ทบินและสายการบิน*** ไม่รวมน้ำหนักกระเป๋าสำหรับโหลดใต้ท้องเครื่อง ท่านสามารถซื้อน้ำหนักกระเป๋าก่อนเดินทาง 7 วัน (15กิโลกรัม ราคา 550 บาท/เที่ยว)
- ราคานี้รวม
- ราคานี้ไม่รวม
- หมายเหตุ
1. ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นทัศนาจร ไป-กลับ พร้อมกรุ๊ป รวมถึงค่าภาษีสนามบิน ตามที่ระบุไว้ในรายการเท่านั้น หากสายการบินมีการปรับราคาภาษีน้ำมันขึ้น ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เก็บค่าภาษีน้ำมันเพิ่มตามความเป็นจริง ก่อนการเดินทาง (ตั๋วเครื่องบินที่ใช้เป็นแบบกรุ๊ปไม่สามารถเลือกที่นั่งล่วงหน้าได้ ท่านจะได้รับที่นั่งแบบสุ่มเท่านั้น)
2. ค่ารถตู้นำเที่ยว 9 ที่นั่ง พร้อมน้ำมันและคนขับนำเที่ยวตลอดการเดินทาง
3. ค่าที่พัก 2 คืน พักห้องละ 2-3 ท่าน
– กรณีห้อง TWIN BED (เตียงเดี่ยว 2 เตียง) ซึ่งโรงแรมไม่มีหรือเต็ม ทางบริษัทขอปรับเป็นห้อง DOUBLE BED แทนโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
– หากต้องการห้องพักแบบ DOUBLE BED ซึ่งโรงแรมไม่มีหรือเต็ม ทางบริษัทขอปรับเป็นห้อง TWIN BED แทนโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เช่นกัน
– กรณีพักแบบ TRIPLE ROOM 3 ท่าน 1 ห้อง ท่านที่ 3 อาจเป็นเสริมเตียง หรือ SOFA BED หรือ เสริมฟูกที่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบการจัดห้องพักของโรงแรมนั้นๆ
4. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายการ
5. ค่ายานพาหนะท้องถิ่น (ถ้ามี)
6. ค่ามัคคุเทศก์คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
7. ประกันอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทาง (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
8. ค่าบริการดังกล่าวเป็นค่าบริการเฉพาะผู้เดินทางที่เป็นชาวไทยเท่านั้น
1.ไม่รวมน้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องค่าน้ำหนักสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง 15 กิโลกรัม ราคา 550 บาทต่อเที่ยว (หากต้องการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม รบกวนแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนเดินทาง 7 วัน)
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ เช่น ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ ฯลฯ
3. ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ของชาวต่างชาติที่เพิ่มเติมตามการจ่ายจริง
4. ค่าอาหารสำหรับท่านที่ทานเจ มังสวิรัติ และอาหารสำหรับมุสลิม
5. ค่าทิปมัคคุเทศก์, คนขับรถ 300 บาท / ท่าน / ทริป
6.ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT 7 % และ VAT 3%
การยกเลิกการเดินทาง
***เงื่อนไขการยกเลิกทัวร์เป็นไปตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์***
- แจ้งยกเลิกการเดินทางล่วงหน้า ไม่น้อยกว่า 30 วัน คืนเงินค่าทัวร์โดยหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
- แจ้งยกเลิกก่อนการเดินทาง 15-29 วัน ยึดเงิน 50% จากยอดที่ลูกค้าชำระมา ส่วนที่เหลือ 50% หัก ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง (ถ้ามี)
- แจ้งยกเลิกการเดินทางน้อยกว่า 15 วันของการเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินทั้งหมด
- ** กรณีมีเหตุให้ยกเลิกทัวร์ โดยไม่ใช่ความผิดของบริษัททัวร์ ทางบริษัทคืนเงินค่าทัวร์โดยหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง(ถ้ามี)อาทิเช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่นๆ